กระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกเกิดจากการใช้สารไฮโดรคาร์บอนที่กลั่นออกมาจากน้ำมันดิบ จนกลายเป็นอนุภาคขนาดเล็กจากนั้นก็นำมาทำปฏิกิริยากันเองแล้วได้เป็นโซ่ที่คล้องกัน เกิดเป็นโพลิเมอร์ที่มีความเหนียว ยืดหยุ่น และสามารถขึ้นรูปได้ตามที่ต้องการ แต่การที่โพลิเมอร์จะแตกออกเป็นชนิดต่างๆ ได้ จะต้องมีสารตั้งต้นเข้ามาเป็นส่วนผสม เพื่อให้เกิดเป็นเม็ดพลาสติกที่ผู้ใช้งานต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเม็ดพลาสติก PC, PP, PE หรือ PVC ต่างก็ต้องมีสารตั้งต้นมาผสมกับโพลิเมอร์แล้วให้ประโยชน์ที่ต่างกันออกไป โดยจะมีการผลิตออกมาเป็นแบบเม็ดและแบบของเหลวที่สามารถนำสารตั้งต้นชนิดต่างๆ มาผสมเพื่อทำการขึ้นรูปได้ เมื่อทำจนเสร็จเรียบร้อยก็ต้องทิ้งระยะเวลาไว้ช่วงหนึ่งแล้วนำไปผสมกับสารเสริมหลากหลายชนิด ที่จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการใช้งานที่ดีมากขึ้น พร้อมผ่านกรรมวิธีและขั้นตอนการผลิตสารพลาสติก จนได้เป็นเทอร์โมพลาสติกจากกรรมวิธีของโพลิเมอร์ที่จะมาในรูปแบบผงและนำไปผ่านกระบวนการจนขึ้นรูปเป็นเม็ด เพื่อทำให้การนำไปใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น

เมื่อถึงจุดที่พลาสติดถูกผลิตออกมาให้นำไปใช้งานได้ง่ายขึ้น ผู้ผลิตสินค้าประเภทพลาสติกก็จะนำเม็ดพลาสติกเหล่านี้ไปขึ้นรูปเป็นสินค้าต่างๆ ที่มีดีไซน์และสีสันตามแบบที่ต้องการ แต่ถ้าเป็นพลาสติกแบบ PVC เมื่อถูกขึ้นรูปเป็นเม็ดพลาสติกแล้ว ผู้ผลิตยังต้องนำไปปรับปรุงคุณสมบัติเพื่อใช้งานได้อย่างหลากหลายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการเติมสารต่างๆ เข้าไปหรือนำไปผสมกับวัสดุอื่น แล้วขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ตามแบบที่ต้องการได้ ผู้ผลิตจะนิยมใช้เม็ดพลาสติก PVC เป็นส่วนมาก เพราะต้นทุนที่ไม่สูงมากจนเกินไปและให้กำไรกลับมาดีพอสมควร ส่วนพลาสติกโพลิเอทธิลีน (PE) จะถูกกลั่นออกมาจากก๊าซธรรมชาติแล้วนำไปเก็บไว้ในถังบรรจุ พร้อมเติมตัวเร่งปฏิกิริยาเข้าไปเพื่อให้กลายเป็นตัวนำก่อนขึ้นรูปและนำไปใช้งานต่อไป จะเห็นได้ว่าพลาสติกนั้นไม่ว่าจะเป็นประเภทใดต่างก็มีประโยน์ต่อชีวิตของผู้คนที่มากถึง 70% ปัจจุบันประเทศไทยมีเม็ดพลาสติกที่ถูกนำมาใช้งานอยู่ 6 ประเภท คือ

1.โพลิเอทิลีน หรือ PE เม็ดพลาสติกยอดนิยมที่ถูกนำมาใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนมากที่สุด จนมีการแตกออกเป็น LDPE, LLDPE, MDPE และ HDPE ที่สามารถนำไปใช้งานและขึ้นรูปได้อย่างหลากหลาย ถือว่าสร้างประโยชน์ได้สูงเลยทีเดียว

2.โพลิโพรพิลีน หรือ PP นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องใช้ไฟฟ้าและบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ โดยเม็ดพลาสติกชนิดนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ PP แบบทั่วไป กับ PP Copolymer ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในงานได้หลากหลายด้าน มีผลิตทั้งภายในประเทศและมีการส่งออกขายต่างประเทศ ผู้ประกอบการจึงสามารถซื้อไปใช้ได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าเม็ดพลาสติก PP จะหมดหรือมีไม่เพียงพอ

3.โพลิสไตรีน หรือ PS เป็นเม็ดพลาสติกที่นิยมนำมาขึ้นรูปเป็นภาชนะใส่อาหารและเป็นส่วนประกอบภายในเครื่องใช้ไฟฟ้า มีการแบ่งออกเป็น HIPS และ GPPS แต่ในปัจจุบันเม็ดพลาสติกชนิดนี้ยังไม่ค่อยเพียงพอต่อการใช้งานมากนัก

4.โพลีไวนิลคลอไรด์ หรือ PVC เป็นเม็ดพลาสติกที่ถูกนำมาใช้ในหลายๆ งาน แต่ที่เด่นที่สุดคืองานด้านก่อสร้างและงานอุตสาหกรรม จึงทำให้ PVC มียอดผลิตที่สูงเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากเม็ดพลาสติกแบบ PP ซึ่งถือว่าโชคดีมากเพราะเม็ดพลาสติกชนิดนี้มีเพียงพอต่อการใช้งานของผู้ประกอบการภายในประเทศ และสามารถที่จะส่งออกไปสู่ประเทศต่างๆ ได้อีกด้วย

5.ABS/SAN,AS เม็ดพลาสติกคุณภาพสูงที่มีความแข็งแรงทนทาน ยืดหยุ่นได้ ผลิตมาอย่างปลอดภัย ใช้งานได้ตั้งแต่ภาชนะใส่อาหารไปจนถึงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดความต้องการใช้ประโยชน์ที่ค่อนข้างสูง แต่ยังสามารถหามาใช้งานได้และมีการนำเข้าในบางช่วงเวลาอีกด้วย

6.เม็ดพลาสติกแบบสุดท้ายคือเม็ดพลาสติกที่มีการนำมาใช้งานเฉพาะด้าน เป็นเกรดระดับงานวิศวกรรมที่ถือว่าเกรดดีระดับสูง เพราะต้องมีความแข็งแรงทนทาน ทนต่อสารเคมี ทนต่อสารทำกรดและสารทำละลายได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ไม่แตกหักหรือเสียหายง่ายจนเกินไป นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนาน

ปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตเม็ดพลาสติกที่ใช้ทั้งภายในประเทศและส่งออกไปนอกประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้เราได้เห็นว่าพลาสติกนั้นมีประโยชน์ต่อชีวิตของเรามากมายขนาดไหน สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการและสร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิตของผู้ใช้งานอย่างมากมายอีกด้วย

Credit : Click